วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ความรัก … ใช่ไหม

ความรัก … ใช่ไหม

สิ่งที่สวยงาม... สิ่งที่ลวงหลอก... สิ่งที่เพิ่มเติมความสุข... สิ่งที่บั่นทอนความทุกข์... สิ่งที่เป็นสีสันให้กับชีวิต... สิ่งที่มนุษย์ไขว่คว้า... ต่างคนก็ต่างมีความหมายหรือนิยามความรักที่แตกต่างกัน เข้าใจความรักในรูปแบบที่หลากหลาย แล้วอะไรคือ ความหมายของคำว่า “ความรัก” ที่แท้จริง

มนุษย์ไม่ได้ดำเนินชีวิตไปวัน ๆ ตามกาลเวลา ที่คอยให้อนาคตอันไม่สามารถล่วงรู้ได้เกิดขึ้นเป็นปัจจุบัน แล้วปล่อยผ่านไปเป็นอดีตเท่านั้น แต่ความคิด ทัศนะ และความรู้สึกจะพาให้เราพานพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้มีจุดหมายในชีวิต ส่วนความทรงจำจะทำให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ประสบผ่านไปนั้น มีค่าและมีความหมายกับเราทั้ง ณ เวลาที่ดำเนินอยู่และกำลังใกล้เข้ามา ส่งผลกับจิตใจของเราที่มีความสำคัญ และหากจะเปรียบกับสิ่งใดในโลก ก็หาที่เหมาะสมได้ยาก

เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ที่เราต่างมีพ่อมีแม่ให้กำเนิด แล้วคอยเฝ้าดูแลเลี้ยงดู คอยเป็นห่วงเป็นใยทะนุถนอม และคอยมอบความรักให้ โดยที่ท่านทุ่มเททั้งกาย ใจ และเวลาที่เหลืออยู่ทั้งหมดของท่าน ตั้งแต่เรามีชีวิตขึ้นมา จนถึงเวลาที่ไม่มีกำลัง

อุแว้..อุแว้ !! ท่านอุ้ม กอด ให้นม หาอาหาร อาบน้ำ เช็ดน้ำลาย ป้อนข้าว ทำความ-สะอาด พาไปหาหมอยามเจ็บป่วย ล้วนทำสิ่งต่าง ๆ ให้เราสบาย ปลอดภัย และมีความสุข พอวัยเข้าเรียน ท่านก็ขับรถไปส่ง เดินถือกระเป๋าและจูงเราที่ร้องไห้เข้าโรงเรียน ขับรถมารับกลับบ้าน ช่วยทำการบ้าน ป้อนข้าวป้อนน้ำ ซื้อของเล่นให้ พาไปเที่ยวสวนสนุก ซื้อเกม ซื้อการ์ตูน ซื้อขนม ดูแลเราตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เมื่อเห็นเรามีความสุข ท่านก็สุขใจ จะพาไปอาบน้ำ เข้านอน เล่านิทานให้ฟัง จะใช้นิ้วก้อยสัมผัสไล้ที่แก้มให้เคลิ้มหลับ คืนไหนเราไอส่งเสียงตอนดึก ท่านก็เอาน้ำให้ดื่ม มาร้องเพลงกล่อมให้นอน แม้จะเหนื่อยกาย แต่ท่านทำด้วยใจ

ทุกความต้องการของเรา ท่านจะสนองให้ด้วยความเหมาะสม เราอยากเล่นอยากทำกิจกรรมในเวลาว่างหรืออยากเล่นกีฬาอะไร ก็จะพาไปเล่น ไปหาครูสอน หาซื้ออุปกรณ์ให้ครบ พาไปรับไปส่ง รวมถึงคอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ซึ่งบางครั้งก็ร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมกับเรา จะไปค่ายก็ช่วยจัดกระเป๋า ช่วยตรวจสิ่งของให้ครบ

ในเรื่องการทำบุญ ตักบาตร สวดมนต์ ฟังเทศน์ ท่านก็จะพาไปวัดให้รู้จักกับพระพุทธศาสนา การทำความดีรักษาศีลห้า มีคุณธรรมจรรยา และเรื่องมารยาทที่สอนให้ไหว้คนที่อาวุโสกว่า ให้อ่อนน้อม ไม่ถกเถียง ไปลามาไหว้ อย่างเช่นก่อนลงจากรถเข้าโรงเรียนก็ยกมือไหว้พร้อมกล่าวสวัสดี ให้คำสัตย์กับท่านว่า “ตั้งใจฟังครูสอน ไม่คุยในห้องเรียน” พอขึ้นรถกลับบ้านก็ไหว้สวัสดีท่าน เป็นสิ่งที่ถ่ายทอด และสืบต่อกันมาในประเพณีวัฒนธรรมไทย

เมื่อถึงช่วงวัยรุ่น ท่านทั้งสองก็พาไปหาที่เรียนพิเศษ ไปหาพี่ ๆ ญาติ ๆ ถามถึงการเรียนต่อ ทั้งในระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา เมื่อมีใครที่รู้จักเรียนจบก็จะพาไปงานรับปริญญา หาชุดให้แต่ง ให้เราเห็นถึงความสำเร็จ ไว้เป็นแรงขับทางการศึกษา พอผลสอบออกมาก็จะชื่นชม แสดงความยินดี และให้รางวัลเป็นความสำเร็จทีละก้าว

จนปัจจุบัน สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านให้ จนเราประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ ลุล่วงสำเร็จมาได้ มีความสุข เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ได้รับความรู้ การศึกษา การอบรมสั่งสอน มีความเคารพ สัมมาคารวะ มีวุฒิการศึกษา มีวุฒิภาวะ และมีสติปัญญา สิ่งเหล่านี้นั้น ท่านทำเพื่อเรา การมีพ่อแม่และเป็นครอบครัวที่ครบสมบูรณ์ การได้รับการดูแลเอาใจใส่จากท่านทั้งสอง คอยหาสิ่งต่าง ๆ มากมายให้ด้วยใจ เป็นสิ่งที่มีค่าของลูกคนหนึ่ง จนเราเป็นเพียงฝ่ายได้รับ และท่านทั้งสองเองก็เป็นฝ่ายให้ ฝ่ายสนองความต้องการเรามาตลอด แล้วสิ่งที่ลูกจะให้ตอบกลับท่านได้บ้าง คือ...

เป็นลูกที่ดี ตั้งใจเรียน เป็นคนดีของสังคม สร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูล ดูแลเป็นห่วงเป็นใยท่าน แบ่งเบาภาระ ทำความสะอาดบ้าน ล้างถ้วยชาม จัดของให้เป็นระเบียบ ขวนขวายหาความรู้ แลกเปลี่ยนสายสัมพันธ์ด้วยการสื่อสาร เป็นผู้พูด เป็นผู้ฟัง ให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แสดงความรักด้วย การกอดกัน ให้การ์ด มอบ ดอกมะลิในวันแม่ มอบดอกพุทธรักษาในวันพ่อ ส่งความสุขในวันปีใหม่ ให้ของขวัญ เป่าเทียนตัดเค้กในวันเกิดท่าน

ประสบการณ์ในชีวิตต่าง ๆ เพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะใช่ความรักในรูปแบบของใครหลาย ๆ คนหรือไม่ เนื่องจากหลายคนมองความรักในแง่ของคนสองคนที่จะเป็นเนื้อคู่กัน แสดงความรักและความรู้สึกต่อกันด้วยดอกกุหลาบ การกอด การจูบ หรือแบบอื่น ๆ แต่สำหรับข้าพเจ้า นี่คือ ความรัก... ความรักที่แท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น